ปธ.มูลนิธิเซียงเต๊กตึ้งแจงศาลฎีกายืนไม่รื้อสุสานวัดพนัญเชิงฯ เมืองกรุงเก่า

ปธ.มูลนิธิเซียงเต๊กตึ้งแจงศาลฎีกายืนไม่รื้อสุสานวัดพนัญเชิงฯ เมืองกรุงเก่า

ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษายืนตามศาลอุทรณ์ ไม่รื้อสุสานวัดพนัญเชิงวรวิหาร หลังจากที่เกิดข้อพิพาทมานานหลายปี ท่ามกลางความโล่งอกของลูกหลานบรรพบุรุษนับ 3 พันหลุม

       เวลา 11.00 น.วันที่ 17 พ.ค. 61  นายวินัย อัศวราชันย์ ประธานมูลนิธิวัดพนัญเชิงเซียงเต๊กตึ๊งอยุธยา เป็นประธานในการแถลงข่าวภายหลังจากที่ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษา กรณีการพิพาทเรื่องการรื้อสุสานวัดพนัญเชิงวรวิหาร โดยมีนายชัยสิทธิ์ กังวาลย์ไกรไพศาล  นายอมร มหิทิรุท  นายสมนึก  ลีลารุ่งอนันต์ กรรมการมูลนิธิฯ นายสุรพล กองอรรถ ทนายความ ร่วมแถลงต่อสื่อมวลชนแขนงต่างๆ ณ ห้องประชุมชั้นสองโรงเรียนประชาศึกษา อ.พระนครศรีอยุธยา  จ.พระนครศรีอยุธ  พร้อมนำสื่อมวลชนแขนงต่าง ๆ ลงพื้นที่ตรวจดูสถานที่กรณีได้มีการฟ้องมูลนิธิวัดพนัญเชิงเซียงเต๊กตึ๊ง  ในเรื่องให้รื้อสุสานสาธารณะวัดพนัญเชิงวรวิหาร หลังจากที่เกิดข้อพิพาทมานานหลายปี ท่ามกลางความโล่งอกของลูกหลานบรรพบุรุษนับ 3 พันหลุม 

       นายสุรพล กองอรรถ  ทนายความมูลนิธิฯ  เปิดเผยว่า  จากกรณีที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้มีการฟ้องมูลนิธิวัดพนัญเชิงเซียงเต๊กตึ๊ง  ในเรื่องให้รื้อสุสานสาธารณะวัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งมีหลุมศพไร้ญาติ กว่า 2 พันหลุม และบรรพบุรุษที่มีลูกหลานดูแลอีก 1,200 หลุม  โดยมีการต่อสู้ทางกระบวนการยุติธรรม ศาลชั้นต้นได้มีการพิพากษาไม่ให้คณะกรรมการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับทางสุสานดังกล่าว และสุสานดังกล่าวไม่สามารถรื้อถอนหรือดำเนินการใดๆได้ ซึ่งต่อมาทางวัดพนัญเชิงวรวิหาร ได้มีการยื่นอุทรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่ศาลอุทรณ์ยังยืนตามศาลชั้นต้น  โดยในเรื่องของการไม่ให้คณะกรรมการมูลนิธิเข้าไปยุ่งนั้น อยู่ระหว่างขอทุเลา จนกระทั่งมาถึงศาลฎีกา ได้มีคำวินิจฉัยพิพากษายืนตามศาลอุทรณ์ โดยศาลฎีกาเห็นว่าโจทย์คือวัดพนัญเชิงวรวิหาร ไม่สามารถที่จะฟ้องในกรณีคัดค้านคำตัดสินของศาลอุทรณ์ ในเรื่องการรื้อถอนได้อีกเนื่องจากสุสานดังกล่าวเป็นสาธารณะ ส่วนเรื่องของคณะกรรมการยืนตามศาลอุทรณ์ไม่สามารถดำเนินการได้

       นายวินัย   อัศวราชันย์  กล่าวว่า  ในเรื่องของการรื้อถอนนั้นเป็นที่สบายใจได้ว่าจะไม่ต้องมีการรื้อถอนสุสานอย่างแน่นอน แต่สิ่งที่ต้องมาหารือและต้องดำเนินการต่อ  หลังจากที่ศาลพิพากษายืนตามศาลอุทรณ์ที่มูลนิธิฯ ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ ก็จะต้องเป็นหน้าที่ของลูกหลานที่ยังอาจจะมอบให้กับมูลนิธิฯ ดำเนินการต่อไป อย่างไรก็ตามเนื่องจากยังมีกลุ่มของนายสมาน ศิริพฤกษ์พงษ์  ซึ่งเป็นลูกหลานที่ทำการร้องสอดเข้าไปอีก 102 รายชื่อ ทางศาลฎีกาเห็นว่าผู้ร้องสอดทั้ง 102 นั้นไม่มีอำนาจยื่นคำร้องขอเป็นคู่ความ หน้าที่เป็นของจำเลยที่ 1 คือมูลนิธิฯเท่านั้น ซึ่งทางมูลนิธิฯและทายาททั้งหมดจะได้หารือในการเข้าดำเนินการดูแลสุสานต่อไป

ข่าวล่าสุด


- วันที่[2025-04-22 ] อยุธยา – ต้อนรับ “นายเตช บุนนาค” เลขาธิการสภากาชาดไทย ประชุมคณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัด ภาค 1....


- วันที่[2025-04-22 ] อยุธยา - ต้อนรับคณะผู้บริหารมูลนิธิ “สานใจไทย สู่ใจใต้” เยาวชน และครอบครัวอุปถัมภ์....


- วันที่[2025-04-22 ] อยุธยา - มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ เชิญสิ่งของพระราชทาน มอบให้ผู้ประสบอัคคีภัยในพื้นที่อำเภอวังน้อย....


- วันที่[2025-04-17 ] รองผู้ว่าฯอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมเยาวชนและครอบครัวอุปถัมภ์ ในโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 44 ในพื้นที่ อ.วังน้อย จำนวน 3 ครอบครัว....


- วันที่[2025-04-15 ] ชลบุรีเต้น!- “อนุทิน” สั่งตรวจสอบเหตุทำร้ายนักท่องเที่ยวอินเดียที่พัทยา....


- วันที่[2025-04-15 ] รองผู้ว่าฯอยุธยา - ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการปฏิบัติงาน จนท.ประจำจุดตรวจ อ.วังน้อย ช่วงเทศกาลสงกรานต์ พ.ศ. 2568....


- วันที่[2025-04-12 ] รองผู้ว่าฯอยุธยา – ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมติดตามการปฏิบัติงานของ จนท.ประจำจุดตรวจจุดตรวจ อ.ลาดบัวหลวง – อ.บางซ้าย ช่วงเทศกาลสงกรานต์....


- วันที่[2025-04-12 ] ศปถ.อยุธยา ประชุมสรุปผลการดำเนินงานศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568....


- วันที่[2025-04-10 ] กรมทางหลวง บูรณาการเปิดศูนย์อำนวยความสะดวก - ความปลอดภัย เทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 จุดบริการประชาชน....


- วันที่[2025-03-21 ] ชลบุรี - \'ตุ้ย-เบียร์\' โชว์วิสัยทัศน์พัฒนาบ้านพี่เมืองน้อง \'บางแสน-พัทยา\'....


ดูข่าวทั้งหมด