ผู้ว่าฯอยุธยา - เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลังกรมชลประทาน เตรียมเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา เตรียมพร้อมดูแลประชาชนทันท่วงที

          วันที่ 26 พฤษภาคม เวลา 10.30 น.  นายนิวัฒน์  รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นประธานในการประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือหลังจากกรมชลประทาน เตรียมเพิ่มการระบายน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา โดยมี นายประพันธ์ ตรีบุบผา  รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางปวีณา ทองสกุลพันธ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นายอำเภอ  หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยว  เข้าร่วมประชุมฯ  ณ ห้องประชุมมหาธาตุ ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

          โดยสำนักงานชลประทานที่ 12 ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ และการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา ฉบับที่ 1/2568 ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา และลพบุรี เพื่อเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ  ในช่วงวันที่ 26–30 พฤษภาคม 2568  หนังสือแจ้งเตือนดังกล่าว  สืบเนื่องจากประกาศของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ฉบับที่ 6/2568 เรื่อง “เฝ้าระวังน้ำท่วมขัง น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม” โดยมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมอุตุนิยมวิทยา สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) กรมทรัพยากรน้ำ กรมทรัพยากรธรณี กรมชลประทาน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อวิเคราะห์และคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยจากปัจจัยด้านอุตุนิยมวิทยา และปริมาณน้ำต้นทุน

          ข้อมูลเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 เวลา 06.00 น. พบว่าปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จังหวัดนครสวรรค์ วัดได้ 865 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และไหลเข้าสู่เขื่อนเจ้าพระยา  ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ +15.47 เมตร (รทก.) และปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา  อยู่ที่ 490 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยสำนักงานชลประทานที่ 12 จะควบคุมปริมาณการระบายให้อยู่ในเกณฑ์ไม่เกิน 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อป้องกันผลกระทบต่อพื้นที่การเกษตร

          นายนิวัฒน์  รุ่งสาคร ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า  หลังจากสำนักงานชลประทานที่ 12 ออกหนังสือแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ และการบริหารจัดการน้ำลุ่มน้ำเจ้าพระยา  ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อเตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น  โดยได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ รวมถึงการวางแผนรับมือน้ำหลากล่วงหน้า และเผยแพร่ข้อมูลให้ประชาชนทราบโดยเร็ว รวมถึงประสานองค์กรปกครองท้องถิ่น  เตรียมความพร้อมเครื่องมือ อุปกรณ์ให้พร้อมช่วยประชาชนทันถ่วงที

ปชส.อยุธยา / รายงาน