อยุธยา ปธ.ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 เรียกประชุมคณะกรรมการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สรุปสถานการณ์

ศูนย์บริหารสถานการณ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้เร่งประชาสัมพันธ์วิธีออกกำลังกายในสวนสาธารณะให้ห่างไกลโรคโควิด-19 และเชิญชวนร่วมสนับสนุนโครงการ “เด็กเกิดใหม่อยุธยาต้องไม่อดนม”

          เวลา 08.00 น. วันที่ 7 พฤษภาคม 2563  นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ประธานศูนย์บริหารสถานการณ์แก้ไขการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 เรียกประชุมคณะกรรมการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อสรุปสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ ปัจจุบัน ผู้ป่วยติดเชื้อรักษาหายหมดแล้ว และไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ มียอดผู้ป่วยสะสมรวมทั้งสิ้น 8 ราย รักษาหายแล้ว 7 ราย เสียชีวิต 1 ราย ตรวจหาเชื้อสะสมรวมทั้งสิ้น  258 คน ส่งตรวจเชื้อรายใหม่ 2 ราย ในส่วนผู้ทำการฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มียอดรวม 24 ราย  ณ  ห้องประชุมอโยธยา ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

          นายภานุ แย้มศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า จากกรณี ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ (ศบค.) แถลงผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ ประเภทกิจการและกิจกรรม 6 ประเภท พร้อมทั้งขอให้ประชาชนทุกคน ที่ออกมาทำกิจกรรมตามสถานที่ดังกล่าว ให้ใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า ขณะนี้มีข้อถกเถียงเรื่องต้องใส่หน้ากากขณะออกกำลังกายด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ ได้สอบถามไปยังสาธารณสุข แจ้งว่าการใส่หน้ากากอนามัย จะเพิ่มแรงต้านการหายใจ ทำให้หายใจได้ลำบากขึ้น หัวใจและหลอดเลือดจะต้องทำงานหนักมากขึ้น จึงขอให้ออกกำลังกายด้วยการเดินเร็ว เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงนี้ และอีกหนึ่งโครงการที่ละเลยไม่ได้ คือ “โครงการเด็กเกิดใหม่อยุธยาต้องไม่อดนม” ในช่วงสัปดาห์หน้าจะเริ่มแจกจ่ายนมให้กับครอบครัวที่ลงทะเบียนไว้

          หลังจากการประชุมเสร็จ นายภานุ แย้มศรี เป็นประธานในการรับมอบเงินและอุปกรณ์ต่างๆ จากหลายหน่วยงาน ร่วมสนับสนุนโครงการของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้แก่ สำนักปฏิบัติธรรมมูลนิธิพุทธเมตตา ต.เชียงรากน้อย มอบเงินจำนวน 100,000 บาท (หนึ่งแสนบาทถ้วน) นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มอบเงิน 50,000 บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ร่วมสนับสนุนโครงการเด็กเกิดใหม่อยุธยาต้องไม่อดนม นอกจากนี้ นายธีรศักดิ์ ปานประเสริฐ ผู้อำนวยการ สำนักงาน คปภ.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นตัวแทนนำข้าวสาร จำนวน 2 ตัน มามอบให้กับจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โรงไฟฟ้าวังน้อย มอบ Face shield เจล พร้อมอุปกรณ์ที่กดเจลแบบเท้าเหยียบ เพื่อใช้ในการป้องกันต้านโรคโควิด-19